ชีวิตของครอบครัวเล็กๆ ที่มีสมาชิก 4 คน คือ พ่อ แม่ และลูกเล็ก 2 คน ที่ยังเรียนอยู่ในระดับประถมศึกษา ดูเหมือนจะดำเนินไปตามกระแสสังคมยุคปากกัดตีนถีบ ทุกคนต่างดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอดในแต่ละวัน พ่อเป็นพ่อค้าเร่ขายของตามท้องถนน ส่วนแม่ก็คอยดูแลลูกและบ้านไปพร้อมกัน ชีวิตที่ดูเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทำให้พวกเขาต้องเผชิญกับความเสี่ยงภัยในทุกๆ วัน
วันหนึ่ง ภรรยาได้ไปดูดวงกับหมอดูชื่อดังในพื้นที่ หมอดูบอกเธอว่า "สามีของคุณกำลังมีเคราะห์หนักมาก ต้องระวังให้ดี" คำพูดนี้ทำให้เธอตกใจและไม่สบายใจ เธอรีบกลับมาบ้านและปรึกษากับสามีทันที ทั้งคู่ตัดสินใจทำประกันชีวิตให้กับสามีโดยเร็วที่สุด เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น สิ่งที่หมอดูทำนายก็เกิดขึ้นจริง สามีประสบอุบัติเหตุขณะขับรถมอเตอร์ไซด์เร่ขายของ เขาบาดเจ็บสาหัสและต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลนานเป็นเดือน ภรรยานึกถึงประกันชีวิตที่เพิ่งทำไว้ เธอรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาบ้าง เพราะคิดว่าประกันชีวิตจะช่วยคุ้มครองและผ่อนหนักเป็นเบา แต่แล้วเธอก็พบว่า ประกันชีวิตที่ซื้อไว้เป็นเพียงทุนประกันเท่านั้น ไม่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลหรือการชดเชยรายได้ เธอเริ่มสงสัยว่า แล้วครอบครัวของเธอจะฝ่ามรสุมชีวิตนี้ไปได้อย่างไร?
## มุมมองของคนข้างหลัง:
จากเรื่องราวนี้ เราสามารถเห็นได้ชัดเจนว่า ความเชื่อส่วนตัวและความตระหนักถึงความเสี่ยงภัยมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจของคนเรา ภรรยาเชื่อในคำทำนายของหมอดู และตัดสินใจทำประกันชีวิตให้สามี ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี แต่ปัญหาคือ การทำประกันชีวิตเพียงอย่างเดียวไม่ใช่คำตอบสุดท้าย หากขาดการวางแผนที่รอบคอบและครอบคลุมทุกด้านของชีวิต
ชีวิตมีความไม่แน่นอนเสมอ และไม่มีใครรู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น การขาดเสาหลักของครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นพ่อหรือแม่ ย่อมส่งผลกระทบต่อทุกคนในบ้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากไม่มีแผนการรองรับที่เพียงพอ ครอบครัวอาจต้องเผชิญกับความยากลำบากทั้งทางด้านการเงินและจิตใจ
## กระตุ้นความตระหนัก:
เรื่องราวนี้ต้องการกระตุ้นให้ทุกคนตระหนักถึงความเสี่ยงภัยและความไม่แน่นอนของชีวิต ไม่มีใครรู้ว่าวันหนึ่งเราอาจต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด การเตรียมตัวและวางแผนล่วงหน้าเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการทำประกันชีวิตที่ครอบคลุมทุกด้าน ไม่ใช่เพียงแค่ทุนประกัน แต่ควรรวมถึงค่ารักษาพยาบาลและการชดเชยรายได้ด้วย
## คำถามที่ท้าทายจิตใต้สำนึก:
- หากวันหนึ่งคุณหรือคนที่คุณรักต้องจากไป จะเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวที่เหลือ?
- คุณพร้อมที่จะฝ่ามรสุมชีวิตไปได้อย่างไร หากขาดเสาหลักของครอบครัว?
- การทำประกันชีวิตเพียง #ทุนประกันอย่างเดียว เพียงพอหรือไม่? หรือคุณควรมีแผนรองรับอื่นๆ เพิ่มเติม?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น